กระแสความนิยมท้าวเวสสุวรรณ วัดดอนใหญ่ ยังคงแรงต่อเนื่อง

กระแสความนิยมท้าวเวสสุวรรณ วัดดอนใหญ่ ยังคงแรงต่อเนื่อง

กระแสความนิยมท้าวเวสสุวรรณ วัดดอนใหญ่ ยังคงแรงต่อเนื่อง

Blog Article



ท้าวเวสสุวรรณ วัดดอนใหญ่



กระแสความนิยมท้าวเวสสุวรรณวัดดอนใหญ่ยังคงแรงต่อเนื่อง เห็นได้จากในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้องค์ท้าวเวสสุวรรณกันอย่างเนืองแน่น โดยบรรยากาศภายในวัดเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้คนจำนวนมากมาต่อแถวรอสักการะองค์ท้าวเวสสุวรรณและไอ้ไข่ บางคนก็นั่งรอต่อคิวเพื่อรอให้พระใบฎีกาสุเทพ ฐิตพโล เจ้าอาวาสวัดดอนใหญ่ เจิมยันต์สาลิกามหาเสน่ห์ และยันต์นะมหาเศรษฐี



ความนิยมท้าวเวสสุวรรณวัดดอนใหญ่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่าองค์ท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพแห่งความร่ำรวยและโชคลาภ ผู้ที่มากราบไหว้จะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีเงินทองไหลมาเทมา ประกอบกับก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่ามีคนที่ได้โชคลาภจากการมาขอพรองค์ท้าวเวสสุวรรณที่วัดดอนใหญ่ จึงทำให้มีผู้ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้กันอย่างคับคั่ง

ผู้คนแห่ขอเลขเด็ด จากท้าวเวสสุวรรณ วัดดอนใหญ่



นอกจากการสักการะองค์ท้าวเวสสุวรรณเพื่อขอพรแล้ว หลายคนยังเดินทางมากราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ดจากองค์ท้าวเวสสุวรรณอีกด้วย โดยวิธีการขอเลขเด็ดที่นิยมมีดังนี้


  • เสี่ยงเซียมซี

  • จับเลขในไหปิงปอง

  • ตีเลขจากตัวเลขที่ปรากฏบนวัตถุมงคล



จากผลการเสี่ยงเซียมซีและจับเลขในไหปิงปอง พบว่าเลขเด็ดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ 239, ท้าวเวสสุวรรณวัดดอนใหญ่ งวดนี้ 392, 639, 936 และ 369

ชาวบ้านแห่นำอาหารมาออกโรงทาน หลังได้โชคลาภ



นอกจากการขอพรและขอเลขเด็ดแล้ว ยังมีชาวบ้านจำนวนมากที่เดินทางมานำอาหารมาออกโรงทานให้กับผู้ที่มาสักการะองค์ท้าวเวสสุวรรณด้วย โดยหนึ่งในผู้ที่นำอาหารมาออกโรงทานคือนางลำดวน เบ๊กเกอร์ ชาวบ้านคลองเก้า ลำลูกกา ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่าครอบครัวตนเองนับถือท้าวเวสสุวรรณกันทั้งครอบครัว และตั้งแต่เดินทางมามูกับท้าวเวสสุวรรณที่วัดดอนใหญ่แห่งนี้ ก็จะได้โชคลาภมาแล้วหลายแสนบาท อีกทั้งยังได้งานต่อเนื่องตลอดทั้งปี ครอบครัวมีความสุข วันนี้จึงได้นำอาหารมาเปิดโรงทานเพื่อตอบแทนบุญคุณขององค์ท้าวเวสสุวรรณ

กระแสความนิยมท้าวเวสสุวรรณวัดดอนใหญ่ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าความเชื่อเรื่องเทพแห่งความร่ำรวยและโชคลาภยังคงมีอิทธิพลต่อคนไทยอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่ากระแสความนิยมนี้จะสามารถยืนระยะต่อไปได้อีกนานแค่ไหน

Report this page